ต้องดูเป้าหมายของผู้เลี้ยงว่ามีวัตถุประสงค์หลักอย่างไรบ้าง จะเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินเลี้ยงเพื่อเตรียมตัวส่งเข้าประกวด หรือเลี้ยงเพื่อเป็นการค้า
1. เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินก็จะพิจารณาเลือกไก่ที่มีสายพันธุ์ดี มีลักษณะแข็งแรงจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ โดยเลือกสีไก่ตามความชอบของผู้เลี้ยง
2. เลี้ยงเพื่อเตรียมตัวส่งไก่เข้าประกวด ต้องคัดเลือกไก่โดยพิจารณาตั้งแต่ ความยาวของขา รูปทรง สายพันธุ์ที่ดี มีลักษณะแข็งแรง จากฟาร์มที่เชื่อถือได้
3.1 ต้องคัดเลือกสีไก่ที่ตรงตามความต้องการของตลาด
3.2 คัดเลือกสีไก่ตรงตามลักษณะของสีนั้นๆ จากฟาร์มที่เชื่อถือได้
3.3 เลือกไก่ทั้งเพศผู้ และเพศเมียที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เมื่อไก่เริ่มผสมพันธุ์ได้ จะไม่มีปัญหาในการผสม
3.4 ลักษณะของไก่ตัวผู้ ความยาวของขา ไม่ควรสั้นจนเกินไป
3.5 ไก่ที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ต้องมาจากฟาร์มที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคที่รุนแรงมาก่อน
3.6 ไก่ต้องได้รับการให้วัคซีนตามโปรแกรมครบถ้วน
การจัดการพ่อแม่พันธุ์
การเลี้ยงไก่แจ้นั้นควรเลี้ยงแยกตามสีอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการผสมข้ามพันธุ์ ลูกไก่ที่มีสีตรงตามพันธุ์ จะจำหน่ายได้ราคาดีกว่าเสมอ
พ่อพันธุ์ที่ใช้ควรมีอายุ 7- 8 เดือน ส่วนแม่พันธุ์ควรเริ่มที่ อายุ 5 เดือนขึ้นไป พ่อพันธุ์สามารถคุมฝูงแม่พันธุ์ได้ 3-4 ตัว
ควรเสริมเปลือกหอยป่นในอาหารสำหรับพ่อแม่พันธุ์ เพื่อช่วยให้เปลือกไข่แข็งแรง เก็บไข่ทุกครั้งที่พบ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่สกปรก
วัสดุรองพื้น นักเลี้ยงไก่แจ้นิยมใช้ทรายเป็นวัสดุรองพื้น เพราะง่ายต่อการทำความสะอาด โดยใช้ตระแกรงหยาบร่อนเอามูลออก และเปลี่ยนเอาทรายทิ้งเมื่อเริ่มเป็นผงละเอียด
ผู้เลี้ยงในปัจจุบัน นิยมใช้อาหารสำเร็จรูปอัดเม็ด (Pellet Feed) สำหรับไก่ไข่ในการเลี้ยง โดยจะเลือกใช้ตามขนาดของไก่ 3 ระยะคือ
-ระยะไก่เล็ก อายุ แรกเกิด - 6สัปดาห์
-ระยะไก่รุ่นอายุ 6 สัปดาห์ - 19 สัปดาห์
-ระยะพ่อแม่พันธุ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป (มานิตย์, 2536)
โดยให้กินตลอดเวลาแบบไม่จำกัดปริมาณ อาหารที่ใช้จะต้องเป็นอาหารที่ใหม่ และสะอาดเสมอ ไก่แจ้กินอาหารในปริมาณที่ไม่มาก เพราะไก่แจ้ตัวเล็ก การลงทุนค่าอาหารจึงต่ำมาก ไก่แจ้หนัก 100 กรัม ให้อาหารเพียง 30 กรัม หรือ 3 % ของน้ำหนักตัว
น้ำจะต้องมีให้ไก่กินอย่างเพียงพอตลอดเวลา ถ้าหากไก่ขาดน้ำ จะมีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง เพราะน้ำจะช่วยระบายความร้อนให้กับร่างกาย น้ำที่ให้ไก่กินต้องสะอาด และเย็น ภาชนะใส่น้ำไม่ควรอยู่ใกล้ไฟกก หรือตั้งตากแดดเพราะจะทำให้น้ำร้อนไก่จะไม่กิน
วิธีการเตรียมไก่เพื่อจำหน่าย
การเตรียมไก่เพื่อการจำหน่ายมีความสำคัญต่อผู้เลี้ยงเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มราคาให้กับตัวไก่แล้ว ยังช่วยยกระดับฟาร์ม ให้มีคุณภาพมากขึ้น ผู้เลี้ยงสามารถทำได้โดย
- ทำการคัดเกรดไก่ ตั้งแต่ไก่อายุประมาณ 1 เดือนขึ้นไป โดยคัดแยกไก่ขาสั้น กับไก่ขายาวออกจากกัน และคัดไก่ที่มีความต้องการของตลาดมากออกจากไก่ทั่วไป
- การจัดชุดไก่ ควรจัดตามประเภทสีไก่ ให้จัดเป็นคู่ หรือเป็นชุด ชุดละ 3 ตัว โดยมีเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว หรือเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 2 ตัว โดยให้อยู่ในสีเดียวกันเท่านั้น เพื่อป้องกันการผสมข้ามสี และป้องกันปัญหาการจิกตีกัน เมื่อนำมารวมกันภายหลัง
- การอาบน้ำไก่ เป็นการช่วยทำให้ไก่มีสุขภาพดี ปราศจากพยาธิภายนอก เช่น เหา ไร หมัด ทำให้ขนเรียบสะอาดเป็นมันเงา
- การจัดโชว์ไก่ กรงที่ใช้ต้องเป็นกรงที่ใหม่ สะอาด มีความเหมาะสมกับขนาด และจำนวนไก่ ผู้เลี้ยงอาจขายได้ทั้งไก่และกรงพร้อมๆกัน จะเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
วิธีการเตรียมไก่เพื่อประกวด
คัดไก่ในฟาร์มที่เราเห็นว่ามีลักษณะดีที่สุดในแต่ละสีในสายาของเรา
ทำการแยกเลี้ยงเดี่ยวล่วงหน้าก่อนการประกวด 3-4 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาการจิกตี (Cannibalism) และการข่ม จากไก่ตัวที่เก่งกว่า
อาบน้ำ ทำความสะอาดตัวไก่เพื่อกำจัดพยาธิภายนอก (Ectoparsites) เช่น เหา ไร และหมัด โดยใช้ยา มาลาไทออน (Malathion) ผสมน้ำในอัตราส่วนน้ำยา 1 แกลลอน ต่อไก่ 100 ตัว น้ำยาที่เหลือจากการอาบน้ำไก ่ให้นำมาฉีดพ่นในกรง ที่ทำความสะอาดแล้ว เพื่อกำจัดไร ในกรงให้หมดไป
ทำการถ่ายพยาธิไก่ โดยพยาธิตัวกลมให้ยาเมเบนดาโซล (Mebenda- zole) 5 - 35 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักไก่ 1 กิโลกรัม พยาธิตัวแบน ให้ยาเมเบนดาโซล 10 - 50 มิลลิกรัม ต่อนำหนักไก่ 1 กิโลกรัม ให้ยาครั้งเดียว
ให้วิตามิน อาหารเสริม (Supplements) เพื่อให้ไก่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดูแลเอาใจใส่ให้มากกว่าปกติ จับอุ้มเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ไม่ตื่นตกใจง่าย หัดให้ไก่เดินบนพื้นลื่น พื้นหยาบ สนามหญ้า
ก่อนการประกวด 5 - 7 วัน ควรอาบน้ำไก่อีกครั้ง ตัดเล็บ เดือยไก่ที่ยาว
เมื่อถึงวันประกวดให้นำไก่ไปสนามประกวดแต่เช้า เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับไก่
เมื่อไก่เป็นหวัดควรทำอย่างไรดี
ขั้นแรกคือ จัดการแยกไก่ที่มีอาการออกขังเดี่ยวเพื่อป้องกันการติดต่อสู่ไก่ตัวอื่นๆ
สองคือจัดหาหลอดไฟ ประมาณ 25 วัตต์ มาแขวนไว้เพื่อให้ความอบอุ่น ในวันที่ฝนตก และเวลากลางคืน
สามให้ยาปฏิชีวนะ ยาแก้หวัดไก่ ควรอ่านวิธีใช้จากฉลากยาอย่างละเอียด
ควรหมั่นทำความสะอาดพื้นกรงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
เทคนิคการดูแลลูกไก่ในหน้าหนาว
อากาศเย็นเป็นสิ่งที่ลูกไก่ไม่ชอบเอาซะเลย อยากรู้ว่าลูกไก่หนาวหรือไม่นั้น
สังเกตุ ไม่ยากหรอกครับ เพียงดูว่าลูกไก่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม หรือกระจายตัวกันอยู่
หากอยู่รวมกันเป็นกลุ่มนั่นแสดงว่าเค้าหนาวแล้วหล่ะครับ
วิธี่ที่จะแก้หนาวก็ง่ายๆ อีกหล่ะครับ เพียงหาหลอดไฟ้(หลอดใส้นะครับ) ขนาด
25 วัตต์ หนึ่งดวงมาแขวน ไว้ในกรง เพื่อให้ความอบอุ่น แต่ถ้าหากอากาศไม่เย็น
หรือเห็นว่าลูกไก่ไม่รวมกลุ่มกันก็อย่าลืมปิดไฟด้วยหล่ะครับ ถ้าจะให้ดีหาตัวหรี่ไฟ
มาใช้จะทำให้เราความคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับช่วงเวลาได้ดีกว่านะครับ และ
กรงสำหรับลูกไก่นั้น ก็ไม่ควรให้โปร่งหรือรับลมนะครับ มันจะได้อุ่นเหมือนอยู่ใน
อ้อมอกแม่มันไงครับ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยงไก่แจ้ก็เหมือนกับอุปกรณ์ที่ใช้เลี้ยงไก่ทั่วๆ ไป คือจำเป็นต้องมี รางอาหาร ที่ตักอาหาร กระปุกน้ำตามขนาดของไก่ กล่องหรือกรงและหลอดไฟแขวนสำหรับลูกไก่และไก่รุ่น
อุปกรณ์ในในการทำความสะอาดทั่วๆไป เช่น ไม้กวาด ตะแกรงร่อนทราย ฯลฯ ถ้าเลี้ยงไก่จำนวนมากควรมีตู้ฟักไข่ด้วย
การฟักไข่ มี 2 วิธีคือ การใช้ตู้ฟักไข่ และการให้แม่ไก่ฟัก
การให้แม่ไก่ฟักจะทำให้แม่ไก่โทรมและใช้เวลานานกว่าที่แม่ไก่จะกลับมาไข่อีก ปัจจุบันนิยมใช้ตู้ฟักไข่ ใช้ระยะเวลาในการฟัก 21 วันเหมือนกับไก่ทั่วๆไป อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 99.5 องศาF ความชื้นประมาณ50-60 %
ไก่แจ้เป็นสัตว์ปีกที่สวยงาม เลี้ยงง่าย ใช้พื้นที่เลี้ยงน้อย เด็กผู้หญิงหรือคนชราก็เลี้ยงได้ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและสามารถทำเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้
2.1 ผู้เลี้ยงต้องมีความรักและสนใจในการเลี้ยงไก่แจ้
2.2 ผู้เลี้ยงต้องมีความรู้เกี่ยวกับลักษณะพันธุ์ไก่แจ้ตามอดดมทัศนีย์ทั้งเพศผู้และเพศเมีย
2.3 ต้องมีตลาดรองรับที่ชัดเจน และต้องอยู่ใกล้แหล่งจำหน่ายแลกเปลี่ยนพันธุ์ไก่
3. เทคโนโลยี และกระบวนการผลิต
ไก่แจ้ที่นิยมเลี้ยงมีทั้งไก่แจ้สากลและไก่แจ้ไทย สีที่นิยมเลี้ยง ได้แก่ สีขาว สีดำ สีทอง สีกระดำ สีเทา สีขาวหางดำ สีประดู่ สีบาร์ สีโกโก้ และสีลายดอกหมาก รูปพรรณไก่แจ้ที่ดีทั่วไป ควรมีลักษณะเหมือนหยดน้ำ หน้าดี สีสวย กระรวยดั้ง หางดอก อกกลมสมส่วน เกษตรกรสามารถหาซื้อได้จากฟาร์มเลี้ยงไก่แจ้ทั่วไป โดยต้องล็อกจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ มีพันธุ์ประวัติที่ชัดเจน
โรงเรือนเป็นที่อยู่อาศัยให้กับไก่ ต้องสามารถกันแดดกันฝน กันลม และให้ความปลอดภัยจากสัตว์ร้ายต่าง ๆ ลักษณะโรงเรือนมีหลายรูปแบบ เช่น เป็นโรงเรือนที่ให้คนเดินเข้า – ออกได้ หรือทำเป็นกรงลอย ยกพื้นเตี้ย สามารถเคลื่อนย้ายได้ หรืออาจทำเป็นแบบกรงซ้อนกันหลายชั้น การเลี้ยงไก่แจ้ 1 ชุด (ตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 4 ตัว) ควรใช้เนื้อที่อย่างน้อยปริมาณ 1 ตารางเมตร ส่วนหลังคา แล้วแต่ความเหมาะสมจะเป็นเพิงหรือจั่วก็ได้ ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมภายในกรงทำคอนสำหรับนอน มีรังไข่ ที่ใส่อาหาร และที่ใส่น้ำรองพื้นกรงด้วยทราย สถานที่ตั้งกรงไก่แจ้ ควรตั้งในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี แดดส่องถึงบ้างพอสมควร ควรมีร่มเงาของไม้ใหญ่ สิ่งสำคัญอย่าให้มีลมโกรกโดนตัวไก่โดยตรง และควรมีมู่ลี่กันละอองฝนในฤดูฝน
ควรใช้อาหารไก่ไข่ที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด โดยจำหน่ายตามขนาดไก่แจ้ คือ ไก่ตั้งแต่ 1 วัน ถึง 1 เดือนใช้อาหารไก่เล็ก ไก่อายุ 1 – 3 เดือน ใช้อาหารไก่รุ่น ไก่อายุตั้งแต่ 3 เดือน ขึ้นไปใช้อาหารไก่ใหญ่ และแบ่งให้อาหารเป็น 2 มื้อ คือ เช้า-บ่าย สำหรับลูกไก่ควรให้กินตลอด 24 ชั่วโมง ควรมีน้ำสะอาดให้ไก่แจ้กินตลอดเวลา
1.3 การจัดการเลี้ยงดูไก่แจ้ระยะต่าง ๆ
การดูแลลูกไก่ ที่ซื้อมาในระยะแรก นำลูกไก่แจ้มาเลี้ยงในกล่องกระดาษ หรือจะเลี้ยงบนกรงอนุบาลลูกไก่ และกกด้วยหลอดไฟขนาด 20 – 25 แรงเทียนเพื่อให้ความอบอุ่น ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์รองพื้นกั้นกล่องให้น้ำและอาหารกินตลอดวัน น้ำควรผสมยาปฏิชีวนะป้องกันการติดชื้อไวรัสหรือให้วิตามินเสริมและควรเปลี่ยนน้ำทุกเช้า – เย็น เมื่อพื้นสกปรกให้เปลี่ยนกระดาษพื้นกล่องทันที เมื่อลูกไก่โตขึ้นก็เปลี่ยนขนาดกล่องให้ใหญ่ขึ้นเลี้ยงลูกไก่ไนกล่องจนอายุประมาณ 3 เดือน แล้วนำไปเลี้ยงในกรงที่เตรียมไว้ส่วนการดูแลไก่รุ่นและพ่อแม่พันธุ์ ไก่ระยนี้การเลี้ยงไม่ค่อยยุ่งยากนักให้อาหารและน้ำกินตลอดวัน อาหารที่ให้ จะใช้อาหารสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาดโดยจะต้องเป็นอาหารที่ใหม่ และมีน้ำสะอาดให้กินตลอดวัน แม่ไก่ 1 ตัว จะให้ลูกปีละ 15 – 20 ตัว
ควรทำวัคซีนป้องกันโรคนิวคาสเซิล หลอดลมอักเสบ โรคฝีดาษ และอหิวาต์ ตามโปรแกรมกำหนดและมีการกำจัดพยาธิภายนอก ได้แก่ เหา หมัด ไร โดยวิธีการฉีดบริเวณพื้นบริเวณคอก หรือ ละลายยาแล้วจับตัวไก่จุ่มในน้ำยาเพื่อเป็นการป้องกันควรป้องกันกำจัดพยาธิภายในอาทิ พยาธิไส้เดือน ดำเนินการโดยทำความสะอาดคอก กวาดอุจจาระออกบ่อย ๆ อย่าให้คอดชื้นและมีการถ่วยพยาธิเป็นประจำ
สำหรับการเลี้ยงไก่แจ้ 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วยตัวผู้ 1 ตัว และตัวเมีย 4 ตัว
ได้แก่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับ ค่าพันธุ์ ค่าอุปกรณ์ในการเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าวัคซีนและเวชภัณฑ์ รวมประมาณ 5,000 – 6,000 บาท
ในปีแรกจะได้จากการจำหน่ายผลผลิตลูกไก่ ที่ได้จากการเลี้ยง 1 ชุด ได้ลูกไก่จำนวน 70 – 80 ตัว จำหน่ายในราคาตัวละ 100 บาท จะได้ผลตอบแทนประมษร 7,000 – 8,000 บาท และในปีต่อ ๆไป จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่ต้องลงทุนค่าพ่อพันธุ์ –แม่พันธุ์อีก
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนและผลตอบแทนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะการตลาดและแหล่งเลี้ยง รวมทั้งขนาดการผลิต ดังนั้นเกษตรกรจำเป็นต้องศึกษาข้อมูล และรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเลี้ยง
เลี้ยงลูกไก่ให้รอด 100%
การเลี้ยงลูกไก่ให้รอด 100 %
ลูกไก่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ การที่จะเลี้ยงลูกไก่ให้รอดได้นั้น เรามาทำความเข้าใจกับปัจจัจหลัก ที่จำเป็นในการเลี้ยงดูก่อน อันได้แก่ ที่อยู่อาศัย อุณหภูมิ อาหาร วัคซีนป้องกันโรค จากนั้นจึงค่อยเรียนรู้เทคนิคต่างๆในแต่ละขั้นตอนกันครับ |
ประการแรกที่อยู่อาศัย ลูกไก่เกิดมาจากแม่ไก่หรือตู้ฟักก็ตามสิ่งที่เหมือนกันของทั้ง 2 อย่างก็คือ การปกป้องให้ลูกไก่รอดจากแดด ลม และได้รับความอบอุ่นที่เหมาะสม แต่สำหรับลูกไก่ที่ไม่มีความแข็งแรงจำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัยที่พิเศษไปกว่านั้น เพื่อการเจริญเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ
ประการต่อมา คือเรื่องอุณหภูมิ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราทราบว่าลูกไก่เกิดจากตู้ฟักด้วยอุณหภูมิ 100 องศาฟาเรนไฮร์ ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำต่อเนื่องก็คือการควบคุมอุณหภูมิและค่อยๆ ปรับลดตามอายุลูกไก่ หากลูกไก่ถูกกระทบจากอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ เกิน 10 องศาในทันทีมีโอกาสป่วยสูง
ประการถัดมาเป็นเรื่องอาหาร เรื่องนี้ง่ายมากเนื่องจากในทุกวันนี้มีอาหารสำเร็จรูปสำหรับลูกไก่จำหน่ายอยู่ทั่วไป แต่สิ่งที่อยากให้คำนึงถึงคืออาหารที่ลูกไก่ได้รับตั้งแต่เป็นไข่ซึ่งก็คืออาหารและวิตามินที่แม่ไก่กินเข้าไป และขณะที่อยู่ในไข่ ซึ่งก็คือไข่แดง เรื่องเหล่านี้จะเกี่ยวโยงถึงการเจริญเติบโตด้วย
ประการสุดท้ายคือวัคซีนป้องกันโรค เมื่อลูกไก่ออกจากไข่มาสัมผัสโลกภายนอก โอกาสที่จะได้รับเชื้อโรคต่างๆเป็นไปได้ตลอดเวลา จริงๆแล้วโรคบางโรคป็นโรคที่ติดต่อมาจากแม่ไก่ด้วย ฉะนั้นการให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเลี้ยงลูกไก่ให้รอด 100% ครับ
เลี้ยงไก่แจ้แบบมืออาชีพ
ความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้ที่รักและคิดจะเลี้ยงไก่แจ้เป็นสัตว์สวยงามนั้นจะ ต้องเริ่มจากความรักและความชอบเป็นพื้นฐานก่อน หลังจากนั้นจะต้องมีความพยายามและตั้งใจในการเลี้ยงให้ดีที่สุด คุณอุดมศักดิ์ จรัลเวชสิทธิ์ ชาว จังหวัดเพชรบุรี และเป็นสมาชิกของสมาคมอนุรักษ์ไก่แจ้ไทย ได้อธิบายถึงวิธีการเลี้ยงไก่แจ้ให้ได้ดี ว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลที่เด่นชัดและถูกต้อง
คุณอุดมศักดิ์ บอกว่าเริ่มต้นจากการหาสายพันธุ์ของไก่แต่ละสีจะต้องถูกต้องและได้มาตรฐาน เช่น หงอน และเหนียงมีจำนวน 4-5 จักร ส่วนของหัวไก่จะต้อง กลมโตสมส่วนกับหน้าและหงอน สีของปากจะต้องถูกต้องตามสีของประเภทไก่แจ้ อาทิ ไก่แจ้สีขาว ปากจะต้องเหลืองไม่ขาวซีด น้ำหนักของตัวไก่จะต้องไม่อ้วนหรือผอมเกินไป ปีกควรจะใหญ่ยาว ระพื้นสวยงาม ไม่ยกลอย ขนปีกเต็มสมบูรณ์ ไม่แตกหรือชำรุดจนเว้าแหว่ง สีของปีกจะต้องไม่มีสีแซมเลอะเทอะ ที่สำคัญ การก้าวเดินและการออกฟอร์ม รูปร่างจะต้องสมส่วนกับเครื่อง การก้าวเดินจะต้องสง่างามเหล่านี้เป็นต้น
หรือพูดรวม ๆ ของลักษณะที่ดีของไก่แจ้ก็คือ “หน้าดี สีสวย กระรวยตั้ง หางดก อกกลม สมส่วน ควรอนุรักษ์” ในการหาสายพันธุ์ของแต่ละสีนั้นจะต้องใช้ไก่เพศ ผู้ จำนวน 1 ตัวและเพศเมีย จำนวน 2-3 ตัว โดยเน้นว่าไก่แจ้เพศผู้และเพศเมียจะต้องมีสายเลือดเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ในการขยายพันธุ์ควรจะใช้ตู้ฟักไข่เป็นหลักและจะต้องคอยเก็บไข่ ทุกวัน จดรหัสเบอร์สายพันธุ์และวันที่เก็บไข่ไว้ที่ฟองด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าเป็นไข่ของไก่สีอะไรและวันไหน เพื่อจะได้รวบรวมเข้าตู้ฟักไข่ ในการรวมไข่เข้าตู้ฟักในแต่ละครั้งจะให้ดีไม่ควรเกิน 5 วันจะทำให้การฟักของลูกไก่ได้ผลดีมาก
ในการอนุบาลลูกไก่แจ้ เมื่อลูกไก่ฟักออกจากไข่ ควรให้ลูกไก่อยู่ในตู้ฟักต่ออีก 1-2 วันโดยไม่ต้องให้อาหารใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากลูกไก่จะได้รับอาหารจากไข่แดงอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาครบ 1-2 วันแล้วให้นำ ลูกไก่มาไว้ในตู้อนุบาล จะต้องเปิดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นตลอด 24 ชั่วโมงโดยใช้หลอดไฟ 25 วัตต์ เป็นเวลานาน 1-2 เดือน ถึงจะเริ่มการคัดแยกไก่ได้ ในเรื่องของการตลาดเมื่อมีการจัดการประกวดไก่แจ้ เราจะต้องนำไก่แจ้ของเราที่คิดว่ามีความพร้อมในการประกวดได้นำไปร่วมประกวด ด้วยเพื่อให้คนอื่น ๆ ได้เห็นไก่แจ้ของเรา
เนื่องจากที่สนามประกวดจะมีผู้เลี้ยงไก่แจ้และพ่อค้า-แม่ค้ามาหาซื้อไก่แจ้ เพื่อนำไปจำหน่ายและมีอีกหลายคนมีความต้องการไก่เพื่อนำไปพัฒนาสายพันธุ์ให้ ดีและสวยงามยิ่งขึ้นต่อไป ปัจจุบันสีของไก่แจ้ที่นิยมเลี้ยงได้แก่ สีขาว แบบสีขาวบริสุทธิ์ เหมือนปุยหิมะ ไม่มีสีอื่นปะปน สีดำ ที่ดำสนิททั้งตัวและขน และสีดอกหมากเป็นต้น
|
|
|
สีขาว (White)
|
สีดำ(Black)
|
สีทอง (Black Taild Buff)
|
ตัวผู้ หน้า หงอน-เหนียง-ติ่งหูสีแดงสดใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสดตา สีแดงหรือส้มปนแดง(สีตาหมายถึง สีรอบตาดำ) จงอยปากสีเหลือง ขนและโคนทั้งตัว ต้องมีสีขาวบริสุทธิ์เหมือนปุยหิมะ ไม่มีสีอื่นปะปน น้ำขนแวววาวแข้ง นิ้ว สีเหลืองเล็บสีขาว |
ตัวผู้ หน้า หงอน - เหนียง- ติ่งหู สีแดงจัดหรือมีปานดำใบหงอนมี เม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดง สดตาสีดำหรือสีสนิมเหล็กมีขอบ ตาจงอยปากสีดำขนทั้งตัวสีดำสนิท ต้องไม่มีสีอื่นแซมน้ำขนเป็นมัน เหลียบเขียวคล้ายปีกแมลงทับแข้ง -นิ้ว เล็บ เป็นสีดำหรือสีหินชนวน
| ตัวผู้ หน้า หงอน-เหนียง-ติ่งหู สีแดงสด ใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีเหลืองหรือสีส้ม จงอยปากสีเหลือง ขนสีทองสดใส สม่ำเสมอทั้งตัว ขนปีกขั้นแรกและชั้นที่สองแซมดำ แต่เมื่อหุบปีกแล้วจะดูเป็นสีทองเกือบทั้งปีก ขนหาง (หางพัด) สีดำ ขอบทอง หางชัย และหางข้างสีดำขอบทอง แข้ง-นิ้ว สีเหลือง เล็บสีขาว |
|
|
|
สีกระดำหรือสีลายข้าวตอก
|
กระโกโก้
|
สีเทาหรือสีเทาดำ เทานกพิราบ
|
ตัวผู้ หน้าหงอน - เหนียง - ติ่งหู สีแดงสดใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีแดงหรือส้มปนแดง จงอยปากสีขาวหรือเหลือง เส้นขนทุกตัวทุกเส้นสีดำ แต่ปลายขนมีจุดสีขาว (ประมาณ 9-12 มม.)ขนหางและขนปีก อนุโลมให้มีสีขาวได้มากกว่ากำหนด
เล็กน้อย แข้ง - นิ้ว - เล็บจขะเป็นสีขาวหรือ
สีเหลือง | ตัวผู้ หน้า - หงอน - เหนียง - ติ่งหู สีแดงสดใบหงอนมีเม็ดทรายหรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีแดงหรือส้มปนแดง จงอยปากสีครีมหรือสีโกโก้สีขนเหมือนสีกระดำ แต่เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีโกโก้ แข้ง นิ้ว เล็บ เป็นสีครีมหรือสีโกโก้ สีกระโกโก้หรือสีโกโก้กระ นาย สุทิน วงษ์ใหญ่ เริ่มผสมสีเมื่อปี พ. ศ. 2534 สำเร็จจนสายเลือดนิ่งเมื่อปี พ.ศ. 2537 | ตัวผู้ หน้า หงอน - เหนียง - สีแดงสด ใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีแดงจัด หรือส้มปนแดง สีน้ำตาลเข้ม จงอยปากสีดำหินชนวนหรือเทาเข้ม ขนทั่วตัวเป็นสีเทา สร้อยคอเป็นสีเทาแต่เข้มกว่าสีตามตัวเล็กน้อย แข้ง - นิ้ว - เล็บ เป็นสีเทาหรือเทาอมดำ |
|
|
|
โกโก้บาร์
|
ลายบาร์
|
โกโก้
|
ตัวผู้ หน้าหงอน - เหนียง - ติ่งหู สีแดงสดใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสดตาสีแดง หรือส้มปนแดง จงอยปากมีสีครีมหรือโกโก้ นายสุทิน วงษ์ใหญ่ เริ่มผสมสีนี้เมื่อปี2519 สำเร็จจนสายเลือดนิ่งเมื่อเดือนตุลาคม2525 ขนทั้งตัวเป็นสีโกโก้ ปลายขนเป็นสีโกโก้เข้ม โดยสลับกับสีโกโก้อ่อนเป็นช่วงๆและ ไม่มีสีอื่นปน แข้ง นิ้ว เล็บ เป็นสีโกโก้ | ตัวผู้ หน้าหงอน - เหนียง - ติ่ง หู สีแดงสดใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีแดงหรือส้มปนแดง จงอยปากสีเหลืองหรืออมดำ สีขนเป็นสีลายระหว่างสีเทาเงิน เข้มทั้งตัวและไม่มีสีอื่นปะปนแข้ง - นิ้ว เป็นสีเหลืองเล็บสีขาว | ตัวผู้ หน้าหงอน - เหนียง - ติ่งหู สีแดงสดใบหงอน มีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีส้มปนแดง จงอยปากสีโกโก้ ขนทั้งตัวเป็นสีโกโก้ ไม่เข้มหรืออ่อน เกินไปสมำเสมอทั้งตัวไม่มีสีอื่นแซมสร้ยคอและระย้า ออกสีโกโก้หรือสีชอคโกแลต เข้มกว่าสีตามตัว แข้ง - นิ้ว - เล็บ เป็นสีโกโก้(เดิมเป็นไก่พื้นเมืองของจังหวัดเพชรบุรี) |
|
|
|
ลายสามสี
|
สีขาวหางดำ
|
สีลายดอกหมาก
|
ตัวผู้ หน้าหงอน - เหนียง - ติ่งหู สีแดงสด ใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่ ตาสีแดง จงอยปากสีขาวอมเหลือง ขนบริเวณหัว คอ ไหล่ ปีก ขนปีกด้านนอก ระย้า อก และท้อง มีสีน้ำตาล และมีเส้นสีดำ ส่วนที่ปลายขนมี จุดสีขาว โดยขนแต่ละใบจากปลายขนจะ มีสีขาวร้อยละ30 ของพื้นที่ ถัดลงมาเป็นสีดำ รัอยละ10 ของพื้นที่ ถัดลงมาอีกจะเป็น สีน้ำตาลเข้มร้อยละ50 ของพื้นที่ และส่วน ที่ติดกับก้านขน หรือขนอุยเป็นสีเทาร้อยละ 10ของพื้นที่ ขนปีกกรอง ขนของปีกหลัก และหางพัด ปรากฎเป็นลักษณะของจุด กระจายเป็นสามสี คือ สีดำ สีน้ำตาล และ สีขาว ขนหาง ขนหางข้างหางพัดและหาง พัดด้านนอก มีสีของโคนขนเป็นสีดำแกมเขียวและบริเวณ ปลายจะมีจุดสีขาวผสมสีน้ำตาล หางพัดด้าน นอกของเพศเมียเหมือนระย้า โคนขนสีเทา แข้ง - นิ้ว - เล็บ สีขาวอมเหลือง | ตัวผู้ หน้า หงอน - เหนียง -ติ่ง สีแดงสด ใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีแดง หรือส้มปนแดง จงอยปากสีเหลือง ขนสีขาวบริสุทธิ์ทั้งตัว ขนปีกชั้นแรกและชั้นที่สองแซมดำ แต่เมื่อหุบปีกแล้วจะดูเป็นสีขาวเกือบทั้งปีก หางพัดมีสีดำ หางชัยขนข้างหางพัดแต่ละเส้นสีดำ แต่ขลิบขอบด้วยสีขาวคมชัดแข้ง - นิ้ว สีเหลือง เล็บสีขาว | ตัวผู้ หน้าหงอน -เหนียง -ติ่งหู สีแดงสด ใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นกำมะหยี่สีแดงสด ตาสีแดงหรือส้มปนแดง จงอยปากสีเหลือง ลำตัวสีดำ ขนตัวใหญ่สีดำ สีขนหัวสร้อยคอและขนระย้าสีดำขลิบเงิน เป็นลายขาวหลามตัดคมชัดหางบสีดำ ปีกสีดำ แข้ง-นิ้ว สีเหลือง เล็บสีขาว |
| ตัวผู้ หน้า -หงอน - เหนียง -ติ่งหู สีแดงสดใบหงอนมีเม็ดทราย หรือพื้นที่กำมะหยี่สีแดงสด ตาสีแดงหรือสีน้ำตาลเข้ม มีขอบตาจงอยปากสีเทาหรือเทาดำ ขนทั้งตัว โดยไม่มีสีอื่นปนขนตามลำตัวตั้งแต่สร้อยคอจนถึงหางจะม่ามีสีเหลืองหรือสีทองขึ้นแซม แข้ง นิ้ว เล็บ สีเทาคล้ายหินชนวน หรือเขียวอมดำหรือสีเหลือง
สีไก่แจ้ไทย |
ขอรูปไก่แจ้ได้ไหมค่ะ
ตอบลบ